วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Radar

ที่มาของคำว่า "RADAR"
คำว่า "RADAR" นี้กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1940 ย่อมาจากคำว่า "RADIO DETECTION AND RANGING" ซึ่งหมายถึงการนำเอาคลื่นวิทยุมาใช้ค้นหาเป้า และวัดระยะทางของเป้า
เมื่อก่อนเราใช้คำว่าคลื่นวิทยุซึ่งในปัจจุบันก็คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั่นเอง จุดประสงค์หลักในการใช้เรดาร์สมัยใหม่ก็คงเหมือนเดิมคือใช้ค้นหาเป้าและวัดระยะทางของเป้า นอกจากนี้แล้วเรดาร์ยังใช้เป็นเครื่องมือวัดความสูงของเป้าได้ใช้วัดหาความเร็วเป้า เช่นเครื่องตรวจจับความเร็วรถยนต์บนท้องถนนเป็นต้น ใช้จี้เป้าเพื่อติดตามเป้าให้ได้ตลอดเวลา หรือใช้เป็นตัวนำร่องให้อาวุธนำวิถีไปสู่เป้าหมาย
แบบของเรดาร์
เรดาร์ที่มีใช้ทั้งหลายนี้อาจแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 2 กลุ่มการใช้งานดังนี้คือ
- เรดาร์ที่ใช้เป็นภารกิจหลัก (PRIMARY RADAR)
- เรดาร์ที่ใช้เป็นภารกิจรอง (SECONDARY RADAR)
1. เรดาร์ที่ใช้เป็นภารกิจหลัก
ที่ต้องเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นภารกิจหลักก็เพราะว่าเราใช้หลักการของมันใช้งานตามวัตถุประสงค์จริงๆและสามารถแยกออกมาได้เป็น 2 แบบคือ
- PULSE เรดาร์
- CW เรดาร์
1.1. PULSE เรดาร์
PULSE เรดาร์ส่งกำลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไปเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงเวลาสั้นมาก เวลาส่วนใหญ่ที่เหลือจากการส่งจะใช้เป็นเวลารับสัญญาณที่สะท้อนกลับมา หลังจากนั้นก็จะเริ่มส่งออกไปใหม่ทำซ้ำกันเช่นนี้ตลอดไป เรดาร์แบบนี้จะใช้สำหรับเดินเรือ ตรวจการณ์ และติดตามเป้าเป็นส่วนใหญ่
1.2. CW เรดาร์
CW-เรดาร์ จะส่งกำลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาจนกว่าจะเลิกส่ง ในการใช้งานบางอย่างความถี่ของคลื่นจะมีค่าคงที่ หรือบางอย่างก็ผสมความถี่อื่นเข้าไปด้วย CW-เรดาร์ ที่มีความถี่คงที่นี้สามารถใช้วัดหาความเร็วของเป้าและใช้เป็นเครื่องตรวจจับขโมยได้ CW-เรดาร์ ที่ใช้ความถี่อื่นผสมเข้าไปเช่น ความถี่ FM จะใช้สำหรับวัดหาความสูงของเป้าและนำร่องให้อาวุธนำวิถีสู่เป้าหมาย เรดาร์ของบางบริษัทพัฒนาให้ FM CW เป็นเรดาร์แบบ Droppler Tracking ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น